ผมเคยซื้อบัตรงาน 808 Festival ไว้เมื่อปี 2016 แต่ติดภารกิจด่วนทำให้ไม่ได้ไป เลยต้อง no show ไปในปีนั้น (เป็นปีที่งานย้ายไปจัดที่พัทยา) ตั้งแต่นั้นมาก็เลยยังไม่ได้ไปอีกเลย ปีนี้จังหวะประจวบเหมาะ เลยได้ทำการจองบัตรแบบ 3-Day Pass ไป วันนี้จะมาเล่าประสบการณ์บางส่วนสำหรับงาน EDM Fest ส่งท้ายปี 2022

สำหรับปีนี้งานจัดที่ไบเทคบางนา การซื้อบัตรทำได้ผ่าน EventPop มีบัตรทั้งแบบวันเดียว และ 3-Day Pass และมีแบบเป็นโต๊ะ VIP ด้วย สำหรับผมซื้อไม่ทันช่วง EarlyBird เลยได้ราคา Final-Tier ไป ราคาใบละ 4000 กว่านิด ๆ สำหรับ 3-Day Pass เมื่อทำการซื้อแล้วจะได้รับเป็นบัตรแข็ง (PVC Card) ซึ่งสามารถเลือกรับผ่านทางไปรษณีย์ หรือรับที่หน้างานก็ได้เช่นกัน และจะต้องนำบัตร PVC Card ไปลงทะเบียน (Pre-Register) เพื่อนำบัตร PVC Card ไปรับ Wristband สำหรับเข้างานในแต่ละวัน และจะมี Main Wristband ให้ด้วย (สรุป ต้องใส่ Wristband 2 เส้นไปหน้าเวที)

ตอน Pre-Regis จะต้องใส่ชื่อและรหัสหลังบัตร PVC Card และตอนรับ Wristband ทาง Staff จะเช็คว่าชื่อตรงกับที่ลงทะเบียนไว้หรือเปล่าร่วมกับบัตรประชาชนและตัวจริงของเราด้วย และทำการ punch hole บัตร PVC Card ของเรา ดังนั้นถ้าบัตรลงทะเบียนไปแล้ว ก็จะขายต่อไม่ได้ เห็นราคารับซื้อในทวิตบัตรยังไม่ลงทะเบียนขายกันหลักหมื่นเลยทีเดียว เพราะบัตรขายหมดไปตั้งแต่วันที่ 6 ธ.ค.

ในส่วนของมาตรการ COVID สำหรับวันงานในตอนแรกทางผู้จัดประกาศว่าต้องตรวจ ATK ก่อนเข้างานและต้องแสดงผลตรวจด้วย แต่พอใกล้วันงานก็ประกาศเปลี่ยนเป็นไม่บังคับ แต่ขอความร่วมมือแทน

มาตรการ COVID ตอนซื้อบัตร
มาตรการที่เปลี่ยนใหม่ก่อนเริ่มงาน 2-3 วัน

ตอนเข้างานก่อนเข้า Hall จะมีการตรวจบัตรประชาชนก่อน หลังจากนั้นเมื่อไปแลก Wristband แล้วก่อนเข้าโซน Hall ก็จะมีตรวจบัตรประชาชนและอาวุธอีกที ถึงจะเข้าไปภายในพื้นที่จัดแสดงได้ เมื่อเข้าไปในงานแล้วจะออกมาแล้วกลับเข้าไปใหม่ไม่ได้

อาหารและเครื่องดื่มจากภายนอกจะนำเข้างานไม่ได้ สามารถซื้อได้ในงานโดยนำ Main Wristband ของเราไปเติมเงินก่อน ที่ตัว Wristband จะมี RFID Chip ใช้เป็นกระเป๋าเงินและใช้ในการแตะซื้ออาหารเครื่องดื่มภายในงาน เงินที่เติมไปจะเปลี่ยนคืนเป็นเงินสดไม่ได้ ดังนั้นเติมเท่าที่จะซื้อก็พอ

Main Wristband และ RFID Tag

เกริ่นมานานยังไม่เข้าในงานสักที 5555 เมื่อทำการแลก Wristband เข้ามาแล้ว Hall จะแบ่งเป็นสองส่วนกั้นด้วยม่านดำ ส่วนแรกเป็นส่วนของบูตสำหรับเติมเงินเข้าใน Wristband และขายอาหาร-เครื่องดื่มต่าง ๆ หลังจะเดินเข้าม่านไปแล้วจะเป็นในส่วนของเวทีแสดงแล้ว ไฟ แสงสี อลังการจัดเต็มมาก

และเป็นปกติมากสำหรับงานแบบนี้ ตอนหัวค่ำหน่อย ๆ พื้นจะสะอาดดี แต่พอใกล้งานพีคพื้นก็จะเปียก น้ำหกบ้าง อ้วกบ้าง เละพอสมควรเลย และที่มีตลอดงานคือควัน ถึงแม้ว่าจะมีจัดโซนไว้ให้สูบโดยเฉพาะแล้วก็ตาม แต่โซนจัดแสดงหน้าเวทีก็ยังมีสูบกันอยู่ดี ห้องน้ำเพียงพอรอไม่นาน อาจจะมีรอนานในช่วงพีคบ้าง แต่ไม่นานขนาด 10-20 นาที และสามารถเดินไปเข้าห้องน้ำได้หลายจุด

สิ่งที่อยากให้ปรับปรุงเท่าที่สังเกตเห็น

  • Main Wristband ไม่สามารถถอดออกได้ ถ้าตัดออกจะต้องเสียค่าสายใหม่ 500 บาท ซึ่งไม่ค่อยจะสมเหตุสมผลเพราะถ้าคนมีธุระกลางวันต้องมาเสียตังเพิ่ม? และในกรณีนี้ ก่อนรับ Day Wristband ก็มีการเช็คบัตรประชาชนอยู่แล้ว ยังไม่เข้าใจว่าทำไมไม่ให้ถอด จะว่ากันเอาไปขายต่อก็ไม่ใช่เพราะต้องมีเช็คบัตรประชาชนอยู่แล้ว กรณีนี้เช้าวันที่มีประเด็นผมจำเป็นต้องถอด Main Wristband ผมจึงเดินทางไปสอบถามกับ Help Desk ที่ไบเทค ทาง Staff ก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้ ไม่แน่ใจว่า Help Desk หรือ Helpless Desk 😛 สรุปต้องเสียตังไปฟรี ๆ 500 บาท
  • Staff ที่เห็นไม่มีบัตรห้อยหรือ DressCode ทั่วถึงทุกคน ตอนต่อแถวรับ Wristband ผมยังเห็นคนเข้าออกประตูทางออกหนีไฟ โดยไม่รู้ว่าเป็นคนที่แอบเข้าออก หรือเป็น Staff กันแน่

ผ่านไปสามวัน ร่างแหลกกันเลยทีเดียว หวังว่าปีหน้าจะแก้ไขจุดติดขัดเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้ครับ แล้วเจอกันน