การใช้งานหรือเก็บ Cryptocurrency จำเป็นต้องมีกระเป๋าสำหรับเก็บ โดยอาจจะเป็น Software ที่สร้างกระเป๋าขึ้นมาและ Sync กับ Network (Hot Wallet) หรือกระเป๋าที่เป็นลักษณะ Offline ไม่มีการเชื่อมต่อกับ Network เลย ทำหน้าที่เพียงแค่ Sign Transaction และประกาศไปใน Network เท่านั้น (Cold Wallet) ซึ่งโดยส่วนใหญ่กระเป๋าที่เป็น Cold Wallet จะเป็นกระเป๋าที่มี Hardware เป็นอุปกรณ์ที่จับต้องได้ และเก็บ Private Key ไว้ภายใน รวมถึงกระเป๋า Safepal S1 ที่กำลังจะรีวิวนี้ด้วยเช่นกัน (ถ้าใครยังงง อ่านบทความของ Bitkub เพิ่มเติมได้ครับ)

Not Your Key 🔑 , Not Your Coin 💰

วาทะกรรมอมตะ ที่ยังคงเป็นจริงจนปัจจุบัน ข้อความดังกล่าวตอกย้ำความสำคัญของ Private Key ที่เป็นตัวแทนกระเป๋าของเรา (รวมถึง Seed Phrase ที่ใช้สร้าง Private Key ด้วย) และบางคนอาจจะไม่สะดวกใจ ที่จะเก็บ Private Key เอาไว้กับ Software Wallet ต่าง ๆ ดังนั้นกระเป๋า Hardware Wallet ที่เก็บ Private Key แยกออกมา จึงเป็นทางเลือกที่จะเพิ่มความปลอดภัยให้สินทรัพย์ Crypto ของเราปลอดภัยมากยิ่งขึ้น (ถ้าหากเราใช้งานอย่างถูกวิธี)

ส่วนตัวผมใช้งาน Ledger Nano S มาก่อน ซึ่งก็ใช้งานได้ดี แต่ไปเจอว่า Safepal S1 นี้กำลังลดราคา เลยจัดมาเก็บเข้ากรุสักหน่อย XD

มาเริ่มกันตั้งแต่ Package กันเลย ตัวกล่องที่ใส่มาเป็นกล่องกระดาษสีดำ และ seal ปิดผนึกเอาไว้ เพื่อเป็นการยืนยันว่ากล่องไม่ได้ถูกแกะและอาจจะถูกดัดแปลงตัว Hardware Wallet เพื่อขโมยเหรียญตามที่เคยเป็นข่าว ตัวกล่องดำด้าน เรียบง่าย ด้านหลังเป็น QR Code สำหรับโหลด App ที่ใช้คู่กับกระเป๋า

ตัว Seal ปิดผนึกกล่องเองก็ไม่ใช่สติ๊กเกอร์ไก่กาธรรมดา แต่เป็นสติ๊กเกอร์ชนิดพิเศษที่เมื่อแกะออกแล้วจะทิ้งคราบ void เอาไว้เป็นรอยที่กล่อง เพื่อยืนยันอีกขั้นว่าตัวกล่องไม่เคยโดนแกะมาก่อน

ภายในจะเป็นตัว Safepal S1 และมีสายชาร์จ Micro USB มาให้ด้วย และล่างสุดจะเป็นแผ่นคู่มือใช้งานและ Seed Phrase Card จำนวน 3 แผ่น

safepal s1 in box

ที่ด้านหน้าตัวเครื่องก็จะมีจอ LCD ขนาด 1.3 นิ้วที่มุมขวาบน ส่วนมุมขวาล่างจะเป็นปุ่ม Navigation ด้านข้างตัวเครื่องติดกับปุ่ม Navigation เป็นปุ่ม Power สำหรับเปิดปิดเครื่อง

ถัดลงมาด้านล่างจากด้านหน้า เป็น port Micro USB สำหรับชาร์จและอัพเดทเฟิร์มแวร์เครื่อง ด้านหลังเครื่องเป็นกล้องที่ใช้ scan QR Code ไม่ระบุความละเอียด

ตัวเครื่องน้ำหนักเบามาก เครื่องที่ผมได้มาเนื่องจากปล่อยทิ้งเอาไว้ในกล่องนานแบตเลยหมด ต้องไปเสียบชาร์จก่อนจึงจะเปิดติด หลังจากเปิดแล้วก็ทำการ scan QR Code เพื่อโหลด App ใน AppStore หรือ PlayStore เพื่อใช้งานคู่กับ Safepal S1 (ตัวนี้ใช้งานร่วมกับคอมพิวเตอร์ไม่ได้ครับ) โดยการเริ่มตั้งค่าใช้งานกระเป๋า จะเริ่มจากการแสดง Seed Phrase ที่เราสามารถเลือกได้ว่าใช้เป็นแบบกี่คำ (24,18,12) แนะนำให้ใช้ 24 คำไปเลยครับเพื่อความปลอดภัยสูงสุด เครื่องจะแสดงทุกคำให้เราจด หลังจากนั้นก็ยืนยัน และเครื่องจะให้เรากดทวน Seed Phrase ที่เราจดเอาไว้ทั้งหมดอีกครั้งเพื่อความถูกต้องทีละคำตามลำดับ

เครื่องจะให้เราตั้งรหัส PIN และชื่อ Wallet ก็เป็นอันเสร็จสิ้น หลังจากนั้นเราก็สามารถเข้าแอป Safepal และเริ่มเชื่อมต่อกระเป๋าได้ทันที โดยแอปจะแสดง QR Code ให้เราเอา Safepal S1 ขึ้นมาสแกน QR Code ดังกล่าว ตัวกระเป๋าจะให้เรายืนยันการเชื่อมต่อ และหลังจากยืนยันเชื่อมต่อก็จะแสดง Dynamic QR Code ที่หน้าจอ ให้เรานำ App Safepal มาแสกนเพื่อยืนยันการเชื่อมต่อ เป็นอันเสร็จสิ้นขั้นตอน ถ้ายังงง ๆ ดูวิดีโอด้านล่างได้เลย

เท่าที่ใช้งานมา ยังไม่พบปัญหาใด ๆ ถือเป็นกระเป๋า Hardware Wallet ที่ราคาไม่แพงและปลอดภัย แถมยังมี Binance คอยหนุนหลังอีก ไม่โดนลอยแพง่าย ๆ แน่นอน

ขอจบการรีวิวเท่านี้ หากมีคำถามสอบถามได้เลยครับ